Experience day with
Samsung Galaxy Note9
เมื่อไม่กี่วันที่ได้มีการเปิดตัว Samsung Galxy Note9 ที่ผ่านมานั้น เราได้มีโอกาสทดลองใช้งาน Note9 สักช่วงระยะหนึ่ง
วันนี้เลยอยากเอาจุดไฮไลท์ที่ชอบมาแบ่งปันกันว่ามีอะไรบ้าง
ส่วนตัวเราชื่นชอบการใช้งานของ Note มากๆ
ติดใจมาตั้งแต่ Note 8 พอตอนนี้มี Galaxy NOTE9
เราก็เห็นพัฒนาที่มากขึ้นได้อย่างชัดเจน
โดยปกติแล้วเราเป็นคนที่ชอบ S PEN มากๆ
และพอมาตอนนี้ที่ S PEN ถูกพัฒนาให้มากขึ้น
ก็ยิ่งทำให้เราตื่นเต้น จากที่ชอบอยู่แล้ว
ก็ยิ่งอยากที่จะใช้ S PEN มากขึ้นไปอีก
ไม่ว่าจะทั้งเรื่องที่เราสามารถเขียนโน้ตได้
แม้จะปิดล็อคหน้าจออยู่
และส่วนมากเรามักจะใช้ S NOTE ในการออกแบบ mood and tone และสร้าง content ต่างๆ เวลาทำงาน เวลาจะไปพรีเซนต์ ก็สามารถการต่อเข้ากับจอโปรเจคเตอร์แล้วเปิดพาวเวอพอยท์ได้เลย
อย่างที่เราบอกเลย S PEN ถูกออกแบบให้ใช้งานอย่างอื่นมากขึ้น นอกจากการขีดเขียนได้ตามปกติแล้ว
ยังสามารถเชื่อมต่อกับโปรเจคเตอร์ได้แล้ว
เมื่อเปิดพาวเวอร์พอยท์เราสามารถใช้ปากกาเพื่อเลื่อนสไลด์ภาพได้ทันทีด้วย และปากกาก็ยังใช้งานได้นานถึง 30 นาทีแหนะ ถ้าหากแบตหมดก็แค่เสียกลับเข้าไปที่ตัวเครื่อ รอเพียง 40 วินาที
แบตเตอรี่ก็จะเต็มและสามารถกลับมาใช้งานได้อย่างเดิม
S PEN
สำหรับคนชอบการถ่ายภาพ S Pen ที่มาในครั้งนี้
สามารถใช้เป็นรีโมทถ่ายภาพได้ด้วยนะ เพียงแค่คลิกจากปากกาแม้ว่าตัวเราจะอยู่ตรงไหนก็ตาม (เหมือนรีโมทกล้อง รีโมทเซลฟี่) ถือว่าเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับการใช้งานสมาร์ทโฟนในช่วงเวลานี้
สามารถควบคุมได้ห่างจากมือถือ 10 เมตร
ใช้ควบคุม Youtube ได้
ใช้ควบคุม Slide เวลาพรีเซนท์งานได้
เสียบชาร์จแบตกับมือถือ 40 วินาที ใช้ควบคุมได้ ครึ่งชั่วโมง (หรือกดปุ่มประมาณ 200 ครั้ง)
กดปุ่มเพื่อบันทึกเสียง
CAMERA
ใน Galaxy Note9 นี้ใช้ Hardware กล้องแบบเดียวกับ Galaxy S9+ ที่สามารถเป็น Dual Camera และ Dual Aperture
Scene Optimizer
สามารถจับภาพสิ่งที่เรากำลังจะถ่าย ณ ตอนนี้มี 20 หมวดด้วยกัน ตัวอย่างเช่น คน สัตว์ อาหาร แต่ละหมวดจะถูก AI ปรับแต่งแบบ Auto เพื่อให้แต่ละหมวดนั้นๆ มีความสวยงามมากขึ้น เช่น ถ้าหาก ai จับภาพอาหารได้จะขึ้นภาพอาหารขึ้นมาและถูกปรับให้มีสีที่สดขึ้น
Flaw Detection
เป็นระบบที่แจ้งเตือนเมื่อในภาพอาจจะมีข้อผิดพลาดบางอย่างเช่นถ่ายแล้วเบลอ หรือ ถ่ายตอนที่กระพริบตาพอดี ระบบนี้ก็จะขึ้นแจ้งเตือนทันทีว่าภาพนี้อาจจะไม่สมบูรณ์ ทำให้เราแก้ไขภาพได้ทัน
Live Focus
มีความเสมือนจริงมากขึ้น จากที่ครั้งก่อนก็ทำได้ดีแต่ครั้งนี้มีความเนียนมาขึ้นไปอีก นอกจากทำให้เราได้ภาพที่สวยคมแลัวยังเพิ่มมิติของภาพให้ดูดีมากขึ้นด้วย
AR Emoji
สามารถปรับแต่งอิโมจิหน้าเราได้มากขึ้น ไม่ใช่แค่ทรงผมกับสีผิวแต่สามารถปรับแต่งรอยยิ้ม สีหน้า ความหนาของปาก ความสูงของแก้ม ทำให้เราได้อีโมจิที่เหมือนตัวเองได้มากขึ้น คล้ายการเล่นเกมส์เดอะซิมส์เลย
-แบตเตอรี่ทนขึ้นสามารถใช้งานได้เกือบทั้งวันโดยไม่ต้องพกพาวเวอร์แบงค์
- Super Slow Video สามารถทำได้นานขึ้น สว่างขึ้นกว่าเดิม
- เสียบ Galaxy Note9 เข้ากับหน้าจอทีวี จะกลายเป็นมอนิเตอร์เลย
- ระบบระบายความร้อนตัวเครื่องดีขึ้นกว่าเดิม
ทั้งหมดคือความสะดวกสบายที่มากขึ้น
เข้ากับการใช้ชีวิตของเราและคนในสายงานออกแบบ
หรือคนที่ชอบถ่ายรูปก็ตอบโจทย์มากขึ้นอีกด้วย
#Unpacked #GalaxyNote9TH #WithGalaxy
#ABOVETHEMARS